HIFU คืออะไร และข้อควรรู้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำ HIFU

  • Post author:
  • Post category:HIFU

HIFU หรือ High-Intensity Focused Ultrasound เป็นกระบวนการการรักษาทางการแพทย์ที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อรักษาโรคหรือปัญหาในร่างกายโดยไม่ต้องทำการผ่าตัดเปิดผ่าหรือแทรกเข้าไปในร่างกาย
ของผู้ป่วย กระบวนการนี้มีความแม่นยำและปลอดภัยมากและสามารถใช้ในการรักษาหลายๆ ประเภทของโรคและสภาวะทางการแพทย์

5 ข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำ HIFU

การตัดสินใจที่จะทำ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นการตัดสินใจสำคัญเกี่ยวกับการรักษาผิวหนังและปัญหาความงามของคุณ ดังนั้นควรรู้ข้อมูลสำคัญเหล่านี้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ

1.วัตถุประสงค์ของการรักษา

สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือวัตถุประสงค์หรือปัญหาทางการแพทย์ที่คุณต้องการแก้ไขด้วย HIFU กระบวนการนี้มักถูกใช้ในการรักษามะเร็งในระดับเริ่มต้นหรือปัญหาเช่นการเกิดรอยสิวขนาดใหญ่ที่ไม่ต้องการการผ่าตัดเปิดผ่า เพื่อให้แน่ใจว่า HIFU เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับคุณ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการประเมินและคำแนะนำเพิ่มเติม

>>ติดต่อเจ้าหน้าทีมแพทย์โรคผิวหนัง คลิกเลย

 2.คุณสมบัติของผู้รับบริการ

บางกรณีอาจมีข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้รับบริการ เช่น อายุ สุขภาพทั่วไป หรือประวัติการรักษาเคมีรักษาอื่นๆ ซึ่งอาจมีผลต่อความเหมาะสมของ HIFU

3.การรักษาและผลการรักษา

ควรสอบถามแพทย์เกี่ยวกับกระบวนการ HIFU และคาดว่ามันจะทำอย่างไร รวมถึงผลลัพธ์ที่คุณคาดหวัง ต้องเสียเวลาในการฟื้นตัวหลังจากกระบวนการรักษาเป็นเวลานานหรือไม่ และมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงใดๆ หรือไม่

 4.ค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่ายสำหรับกระบวนการ HIFU อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเทศและพื้นที่ที่คุณอยู่คุณควรสอบถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการรักษาและการฟื้นตัว

5.ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

ควรทำความเข้าใจถึงควาพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ และรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการรักษา HIFU โดยละเอียด เพื่อทำให้คุณรู้สึกมั่นใจกับการตัดสินใจของคุณ

Hifu เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
  • ผู้ที่มีริ้วรอยน้อยๆ ร่องใต้ตาร่องแก้มไม่ลึกมาก
  • ผู้ที่ต้องการกระชับผิวด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ฉีด
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หลังทำใช้หน้าได้เลย ไม่มีแผล

Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่

สามารถยิงได้ทุกบริเวณที่เราต้องการให้กระชับขึ้นครับ โดยจะมีหัวที่ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้นๆ จุดที่ยิงแล้วเห็นผลชัดเจนแยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

  • ใบหน้า – เหนียง คอ ร่องมุมปาก ร่องแก้ม พวงแก้ม ใต้ตา หน้าผาก เปลือกตาบน และกรอบหน้า
  • ร่างกาย – ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง และสะโพก

นอกจากนี้ Hifu ยังช่วยยกกระชับบริเวณคอ ร่องมุมปาก หน้าผาก เปลือกตาบน และกรอบหน้า ร่างกาย – ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง ได้ด้วย

ข้อดีสำคัญของการทำ HIFU ได้แก่

1.ไม่ต้องผ่าตัด: HIFU เป็นกระบวนการที่ไม่ต้องการการผ่าตัดหรือการแท้ง. มันใช้คลื่นเสียงรบกวนเพื่อฉีดสูญญากาศตรงในเนื้อเยื่อที่ต้องการรักษาโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียง

2.การฟื้นฟูรวดเร็ว: หลังจากการรักษา HIFU, ผู้ป่วยสามารถกลับไปกิจกรรมประจำวันได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน

3.ไม่มีแผลหรือรอยแตก: เนื่องจาก HIFU ไม่ต้องทำผ่าตัดหรือแท้ง, จึงไม่มีรอยแผลหรือรอยแตกในผิวหนัง

4.ไม่ต้องใช้ยาสลบ: ในบางกรณี, การรักษาด้วย HIFU ไม่ต้องใช้ยาสลบหรือยาแก้ปวด

5.ประสิทธิภาพในการรักษา: HIFU มีประสิทธิภาพในการลดขนาดเนื้อเยื่อผิวหนัง, รักษาสิวและรอยแผลเป็น, ลดริ้วรอย, และยกกระชับผิวหนัง

6.การใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง: ในบางกรณี, HIFU สามารถใช้ในการรักษามะเร็งโดยการเปรียบเทียบความร้อนในจุดเป้าหมาย เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

>>ปรึกษาปัญหาโรคผิวหนัง คลิกเลย

7.ไม่ต้องใช้การผ่าตัดเพิ่มเติม: ในบางกรณี, HIFU สามารถใช้ในการทำความสะอาดรักษาเนื้อเยื่อหรือนิ้วมือที่ติดเชื้อโรคโดยไม่ต้องผ่าตัดเพิ่มเติม.

8.ไม่มีการรักษานานนาน: HIFU มักจะใช้เวลาไม่นานในการรักษาแต่ละครั้งและไม่จำเป็นต้องมีการรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

9.ไม่ต้องใช้ผิวหน้าหรือการสัมผัสผิวหนัง: HIFU ไม่ต้องใช้ผิวหน้าหรือการสัมผัสผิวหนังเพื่อการรักษา, ซึ่งทำให้ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือมีอาการอักเสบ

10.ไม่ต้องมีการผ่าตัดหรือการตัดเข้าผิวหนัง: ในบางกรณี, HIFU สามารถใช้ในการรักษาเฉพาะเนื้อเยื่อในผิวหนังโดยไม่ต้องทำการผ่าตัดหรือการตัดเข้าผิวหนัง

ในท้ายที่สุด การตัดสินใจทำ HIFU เป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อข้อมูลและคำแนะนำที่เป็นมาตรฐานตามสถานการณ์ของคุณเอง ถ้าใครกำลังมองหาคลินิกทำ Hifu ที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย ที่ Seven Plus Clinic  และ D’Secret Clinic เราเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง ใช้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ หากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาหรือส่งรูปหน้าให้แพทย์ผิวหนังช่วยประเมินก่อนได้

รู้จักกับ พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง

ตจแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังจากโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ประสบการณ์มากกว่า 15 ปีผู้เชี่ยวชาญ ในการรักษาโรคผิวหนัง โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เน้นความโดดเด่นในการ รักษาโรคผม เล็บ ผิวหนัง โดยเฉพาะ เป็นอดีตอาจารย์แพทย์ รพ.รามา จบจากอเมริกา และเกาหลี

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์พิเศษแผนกผิวหนัง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

หากต้องการแก้ปัญหาผิวด้วย HIFU สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่อเข้ารับคำปรึกษาและติดตามโปรโมชั่นราคาได้ทางช่องทางต่อไปนี้

สาขา Seven Plus Clinic

  • เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
  • facebook : SevenPlusClinic
  • Messenger : SevenPlusClinic
  • Line : @sevenplusclinic
  • Phone : 02-005-5552 , 094-9242294 หรือ 084 6555588
  • Map : ศูนย์โรคผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เซเว่น พลัส ปากซอยพระรามเก้า 51สวนหลวง กรุงเทพมหานคร

สาขา D’Secret Clinic

  • เปิดบริการวันอังคาร, วันศุกร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 14.00 – 18.30 น.
  • facebook : Dsecretclinic
  • Messenger : Dsecretclinic
  • Line : @dsecretclinic
  • Phone : 02-910-2955 , 091-462-9154
  • Map : 67 ซ.ประชาชื่น 2 ถ.ริมคลองประปา แขวง บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (ร้านอยู่หัวมุมด้านซ้ายก่อนทางเข้าที่จอดรถโลตัส ประชาชื่น)
Continue ReadingHIFU คืออะไร และข้อควรรู้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำ HIFU

4 เทคนิค ยกกระชับหน้ายอดนิยม โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ

มลภาวะ ความเครียด ภาระงานอันหนักหน่วง และอายุที่มากขึ้น ทำให้หลายคนประสบปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย เนื่องจากสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินจากสาเหตุที่กล่าวไปในข้างต้น แต่ปัญหาเหล่านั้นแก้ไขได้ ด้วยเทคนิคยกกระชับใบหน้ายอดนิยม ทั้งโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ และ Ulthera ซึ่งแต่ละวิธีเหมาะกับใครบ้างนั้น เรามาดูกัน

4 เทคนิคยกกระชับหน้ายอดนิยม

การดูแลผิวหน้าและยกกระชับหน้าเป็นกระบวนการที่ทุกคนต้องสนใจ เพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีพลังชีวิตมากขึ้น นี่คือ 4 เทคนิคที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับหน้าในปัจจุบัน

1.การยกกระชับหน้าด้วยโบท็อกซ์ (ลิฟต์กรอบหน้า)

1.1 โบท็อกซ์ (Botox) คือ การฉีดโบทูลินั่มท็อกซินซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้บริเวณที่มีกล้ามเนื้อโตหดเล็กลง โดยมากนิยมใช้สำหรับฉีดเพื่อลดกราม

1.2 การยกกระชับหน้าด้วยโบท็อกซ์ ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะฉีดโบท็อกซ์เข้าที่บริเวณกล้ามเนื้อกรอบหน้า หรือที่เรียกกันว่า ลิฟต์กรอบหน้า ซึ่งวิธีนี้จะช่วยดึงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าให้ตึงขึ้น ช่วยให้ผิวกระชับ เห็นกรอบหน้าชัดเจน

1.3 โบท็อกซ์เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน มีปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่ และมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อบริเวณกรอบหน้าใหญ่

>>ติดต่อเจ้าหน้าทีมแพทย์โรคผิวหนัง คลิกเลย

2.การยกกระชับหน้าด้วยฟิลเลอร์

2.1ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ โดยมากมักใช้ฉีดในบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม มีร่องลึก เว้าแหว่ง ซึ่งจะช่วยให้ผิวบริเวณดังกล่าวเต่งตึง

2.2 ฟิลเลอร์สามารถใช้ยกกระชับใบหน้าได้เช่นกัน ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปยังบริเวณที่มีปัญหาเหี่ยวย่น หย่อนยาน เช่น ร่องน้ำตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มตอบ และบริเวณอื่นๆ เพื่อทดแทนคอลลาเจนและอิลาสตินที่ผิวเสียไป

2.3 ฟิลเลอร์เหมาะกับ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าด้วยการเติมผิวให้เต็มและเต่งตึง ผู้มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยที่ต้องการเติมเต็มใต้ชั้นผิว ผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระดูกยุบ สูญเสียไขมันใต้ผิว ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึกในบริเวณร่องแก้ม ใต้ตา ร่องน้ำหมาก แก้มตอบ เป็นต้น

3.การยกกระชับใบหน้าด้วย Ulthera

  • Ulthera เป็นเทคโนโลยีกระชับผิวที่ใช้คลื่นเสียงอัลไทร้าเพื่อกระชับและยกกระชับผิวหน้า

4.การใช้ Ulthera สามารถกระชับผิวหน้าในบริเวณที่ลึกลงไปได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้สารเสริม

  • ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นหลังจากสัก 2-3 เดือน และยังสามารถดูแลรักษาได้นาน
  • Ulthera เหมาะกับ ผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป และมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย กรอบหน้าไม่ชัด หนังตาตก คิ้วตก และมีเหนียงใต้คาง ซึ่งต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ผ่าตัด

การเลือกใช้เทคนิคใดขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ควรปรึกษากับหมอผิวหนัง หรือคลินิกความงามมืออาชีพ เพื่อรับคำแนะนำและการประเมินผิวหน้าเพื่อการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ เพราะผลลัพธ์และความปลอดภัยของเทคนิคเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติและความเชี่ยวชาญของผู้ทำการรักษาด้วย

แนะนำแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังจากโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ผู้เชี่ยวชาญ ในการรักษาโรคผิวหนัง โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เน้นความโดดเด่นในการ รักษาโรคผม เล็บ ผิวหนัง โดยเฉพาะ เป็นอดีตอาจารย์แพทย์ รพ.รามา จบจากอเมริกา และเกาหลี

>>ปรึกษาปัญหาโรคผิวหนัง คลิกเลย

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์พิเศษแผนกผิวหนัง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเรื่องยกกระชับผิวหน้าโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อสอบถามทาง ได้ทางช่องทางต่อไปนี้

สาขา Seven Plus Clinic

  • เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
  • facebook : SevenPlusClinic
  • Messenger : SevenPlusClinic
  • Line : @sevenplusclinic
  • Phone : 02-005-5552 , 094-9242294 หรือ 084 6555588
  • Map : ศูนย์โรคผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เซเว่น พลัส ปากซอยพระรามเก้า 51สวนหลวง กรุงเทพมหานคร

สาขา D’Secret Clinic

  • เปิดบริการวันอังคาร, วันศุกร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 14.00 – 18.30 น.
  • facebook : Dsecretclinic
  • Messenger : Dsecretclinic
  • Line : @dsecretclinic
  • Phone : 02-910-2955 , 091-462-9154
  • Map : 67 ซ.ประชาชื่น 2 ถ.ริมคลองประปา แขวง บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (ร้านอยู่หัวมุมด้านซ้ายก่อนทางเข้าที่จอดรถโลตัส ประชาชื่น)
Continue Reading4 เทคนิค ยกกระชับหน้ายอดนิยม โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ

การทำ Pico Laser มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

Pico Laser เป็นเทคโนโลยีการรักษาผิวหนึ่งในยุคที่ผิวของเรามีบทบาทสำคัญในการแสดงออกถึงความเป็นตัวของเราและความรู้สึกของเราเอง การดูแลผิวหน้าและผิวกายเริ่มกลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ Pico Laser กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการรักษาผิวหน้าและผิวกายที่มีประโยชน์มากมาย ในบทความนี้เราจะพูดถึงประโยชน์ของการทำ Pico Laserและว่าทำไมมันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับความสวยของผิวของคุณ

การทำ Pico Laser มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

การทำ Pico Laser มีประโยชน์มากมาย ดังต่อไปนี้

1.การลดริ้วรอยและแผลเป็น

Pico Laser มีความสามารถในการลดริ้วรอยและแผลเป็นที่อยู่บนผิวหน้าและผิวกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะริ้วรอยจากสิวหรือแผลบาดเจ็บ ด้วยการใช้พลังงานแบบแฟสต์เข้าสู่ผิวหนังที่มีความไวต่อแสง มันช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและย่อยเซลล์ผิวเก่าออก ทำให้ริ้วรอยและแผลเป็นลดลงอย่างชัดเจน

2.การลดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ

Pico Laser ยังมีประสิทธิภาพในการลดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งรวมถึงปัญหาสีผิวมืดที่เกิดจากการอาบแดด, การผ่าตัด, หรือการแพ้ง่าย การรักษาด้วย Pico Laser ช่วยให้ผิวมีสีสม่ำเสมอขึ้นและดูสดใสมากขึ้น

>>ติดต่อเจ้าหน้าทีมแพทย์โรคผิวหนัง คลิกเลย

3.การลดรอยแผลและเคล็ดลับ

การทำ Pico Laser ยังเป็นวิธีที่ดีในการลดรอยแผลเล็กๆ เช่น รอยจุดด่างดำ ที่เกิดจากการกระตุ้นสิวหรือรอยแผลเล็กๆ ที่มีอาการคล้ำ การใช้ Pico Laser ช่วยให้รอยแผลลดลงและผิวหนังดูเรียบเนียนมากขึ้น

4.ไม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน

การรักษาผิวหน้าและผิวกายด้วย Pico Laser ไม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน เนื่องจากมันเป็นกระบวนการที่น้อยที่สุดในการฟื้นตัว ผู้ที่รับการรักษาสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันที และไม่จำเป็นต้องลาหยุดงานหรือกิจกรรมอื่นๆ

5.การป้องกันและรักษาสิว

Pico Laser ยังเป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกันและรักษาสิว โดยการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์เข้าสู่ผิวหนังเพื่อช่วยลดการอักเสบและควบคุมการสร้างเนื้องอกในหน้าผากและหน้าที่เป็นจุดที่ส่งผลให้เกิดสิว

ต้องทำ Pico Laser กี่ครั้งจึงจะเห็นผล

จำนวนครั้งที่ต้องทำ Pico Laser เพื่อเห็นผลขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและเป้าหมายการรักษาของคุณโดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์ของ Pico Laser สามารถเห็นได้ตั้งแต่การรักษาครั้งแรก แต่อาจจะต้องทำการรักษาเพิ่มเติมหลายครั้งเพื่อให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและมั่นใจในการรักษาปัญหาผิวหน้าหรือผิวกายของคุณอย่างสมบูรณ์ ดังนี้

1.สำหรับการรักษาปัญหาสิวหรือรอยแผลและแผลเป็น 

ปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเห็นผลการรักษาได้ในครั้งแรก แต่ในบางกรณีอาจต้องทำการรักษาเพิ่มเติมเพื่อลดริ้วรอยและเพิ่มความเรียบเนียนของผิวหน้า. การแนะนำโดยทั่วไปคือทำ Pico Laser ในช่วง 2-4 ครั้งที่ห่างกันประมาณ 4-6 สัปดาห์

2.สำหรับการลดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ

ปัญหาเช่น รอยด่างที่เกิดจากการเผาผิวแดด การแนะนำคือทำ Pico Laser ประมาณ 2-4 ครั้งโดยห่างกันประมาณ 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวมีสีสม่ำเสมอขึ้น

3.สำหรับการลดรอยแผลและเคล็ดลับ

การทำ Pico Laser เพื่อลดรอยแผลและเคล็ดลับส่วนใหญ่จะต้องทำการรักษาหลายครั้ง โดยจำนวนครั้งจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยแผลและเคล็ดลับ
แต่ละคนอาจต้องทำการรักษาจำนวนครั้งที่แตกต่างกัน

>>ปรึกษาปัญหาโรคผิวหนัง คลิกเลย

4.สำหรับการรักษาสิว

การรักษาสิวด้วย Pico Laser อาจต้องทำการรักษาครั้งละ 2-4 ครั้ง โดยห่างกันประมาณ 4-6 สัปดาห์ เพื่อช่วยลดการอักเสบและควบคุมการสร้างเนื้องอก

ควรจะรับคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังก่อนที่จะเริ่มทำ Pico Laser เพื่อประเมินสภาพผิวและกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ แพทย์ผิวหนังจะสามารถแนะนำจำนวนครั้งและระยะเวลาในการรักษาที่เหมาะสมให้คุณได้อย่างแม่นยำ

ทำ Pico Laser คุ้มค่ากับราคาหรือไม่

แม้ว่าราคาในการทำ Pico Laser แต่ละครั้งจะสูงกว่าเลเซอร์แบบปกติ แต่ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าจึงเห็นผลได้ไวกว่า และลดจำนวนครั้งในการทำเลเซอร์ลงได้ ดังนั้นเมื่อเทียบประโยชน์ที่ได้รับจากการทำ Pico Laser กับราคาแล้ว การทำ Pico Laser จึงนับว่าคุ้มค่ากับราคา

รู้จักกับ พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง

ตจแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังจากโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ประสบการณ์มากกว่า 15 ปีผู้เชี่ยวชาญ ในการรักษาโรคผิวหนัง โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เน้นความโดดเด่นในการ รักษาโรคผม เล็บ ผิวหนัง โดยเฉพาะ เป็นอดีตอาจารย์แพทย์ รพ.รามา จบจากอเมริกา และเกาหลี

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์พิเศษแผนกผิวหนัง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

 

หากต้องการแก้ปัญหาผิวด้วย Pico Laser สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่อเข้ารับคำปรึกษาและติดตามโปรโมชั่นราคาได้ทางช่องทางต่อไปนี้

สาขา Seven Plus Clinic

  • เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
  • facebook : SevenPlusClinic
  • Messenger : SevenPlusClinic
  • Line : @sevenplusclinic
  • Phone : 02-005-5552 , 094-9242294 หรือ 084 6555588
  • Map : ศูนย์โรคผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เซเว่น พลัส ปากซอยพระรามเก้า 51สวนหลวง กรุงเทพมหานคร

สาขา D’Secret Clinic

  • เปิดบริการวันอังคาร, วันศุกร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 14.00 – 18.30 น.
  • facebook : Dsecretclinic
  • Messenger : Dsecretclinic
  • Line : @dsecretclinic
  • Phone : 02-910-2955 , 091-462-9154
  • Map : 67 ซ.ประชาชื่น 2 ถ.ริมคลองประปา แขวง บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (ร้านอยู่หัวมุมด้านซ้ายก่อนทางเข้าที่จอดรถโลตัส ประชาชื่น)
Continue Readingการทำ Pico Laser มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

10 เทรนด์การดูแลผิวหนังในยุคปัจจุบัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง

ผิวหนังเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในร่างกายของเรา การดูแลผิวหนังมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพและความงามของเรา ในยุคปัจจุบันมีเทรนด์การดูแลผิวหนังที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความรู้
ในด้านการดูแลผิวหนังเติบโตขึ้น และการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในบทความนี้เราจะสำรวจเทรนด์การดูแลผิวหนังที่กำลังเป็นที่นิยมในยุคปัจจุบัน

10 เทรนด์การดูแลผิวหนังในยุคปัจจุบัน

การดูแลผิวหนังในปัจจุบันได้รับความสนใจอย่างมากเนื่องจากคนหลายคนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาผิวให้สุขภาพดีและสวยงาม นี่คือ 10 เทรนด์การดูแลผิวหนังมีดังต่อไปนี้

1.การใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ

เทรนด์การใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหนังที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติกลับกลายเป็นที่นิยม ผู้คนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเคมีที่อาจมีผลกระทบต่อผิวหนัง ซึ่งผลิตภัณฑ์เช่นนี้ส่วนใหญ่มีส่วนผสมจากพืช น้ำมันพืช หรือสารสกัดจากธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังซึ่งมีความอ่อนโยนและเหมาะสำหรับผิวที่บอบบางและบอบบางทุกรูปแบบ

>>ติดต่อเจ้าหน้าทีมแพทย์โรคผิวหนัง คลิกเลย

2.มนุษยธรรมของผลิตภัณฑ์

มนุษยธรรมของผลิตผลิตภัณฑ์ในการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังกำลังเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่ไม่เทียบเท่าการทดลองกับสัตว์ และมีความเอื้ออาทรในสิ่งแวดล้อม บริษัทคงต้องเน้นการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์ โดยไม่ทดลองกับสัตว์และไม่ใช้สารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต

3.เทคโนโลยีการดูแลผิวหนัง

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดูแลผิวหนังในยุคปัจจุบัน มีการพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดูแลผิวหนัง เช่น เครื่องผลิตคอลลาเจนในบ้าน เครื่องมือการดูแลผิวหนังแบบมืออาชีพ และแอพพลิเคชันที่ช่วยในการติดตามและวางแผนการดูแลผิวหนังในรูปแบบที่ก้าวหน้า

4.การรับรู้เกี่ยวกับสุขภาพผิวหนัง

ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพผิวหนังมีความสำคัญมากขึ้น ผู้คนมีการรับรู้ถึงปัญหาผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นได้ และเรียนรู้วิธีการป้องกันและรักษาผิวหนังให้ดีขึ้น การเครื่องหมายความรู้สึกเหล่านี้มีผลต่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และบริการดูแลผิวหนังในอนาคต

5.การป้องกันผิวหนังจากแสงแดด

ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากแสงแดดมีการเพิ่มมากขึ้น ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับการใช้ครีมกันแดดและการป้องกันผิวหนังจากอันตรายของรังสี UV ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการเสื่อมสภาพของผิวหนังและการเกิดริ้วรอย

6.ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

เทรนด์การดูแลผิวหนังในยุคปัจจุบันกำลังเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ผู้คนกำลังหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและกลับสู่ธรรมชาติหรือใช้วัสดุรีไซเคิล ซึ่งช่วยลดสรรพสิ่งที่สร้างประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์สิ่งแวดล้อม และการรับรู้ถึงร่องรอยที่เราทิ้งให้สิ่งแวดล้อมก็เป็นเทรนด์ที่กำลังก่อตัวขึ้น

7.การนำเทคโนโลยีสู่การดูแลผิวหนัง

เทคโนโลยีในการดูแลผิวหนังกำลังเป็นที่นิยม มีอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสร้างขึ้นเพื่อวัดสภาพผิวหนังเช่น อุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดค่าความชุ่มชื้น ความเสียหายจากแสงแดด หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการแยกแยะปัญหาผิวหนังแบบละเอียด นอกจากนี้ แอพพลิเคชันที่ช่วยในการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังและการวางแผนการดูแลผิวหนังก็เป็นสิ่งที่ผู้คนมีต่อไป

8.การอาศัยการแพร่ระบาดและเสี่ยงต่อสุขภาพ

เทรนด์การดูแลผิวหนังในยุคปัจจุบันก็รวมถึงการคำนึงถึงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อและสุขภาพผิวหนังที่เสี่ยงในสถานการณ์ที่เราอาจต้องอยู่ในสภาวะเสี่ยง เช่น การใช้มาส์กหน้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือการรักษาผิวหนังในสถานที่ที่มีมลภาวะและสารอันตราย

9.การสร้างสรรค์และการนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนัง

ผู้บริโภคกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีการนวัตกรรมและสร้างสรรค์ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการใช้งาน เทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย เครื่องมือที่ใช้ในการดูแลผิวหนังที่อัจฉริยะมากขึ้น เป็นต้นการนวัตกรรมในการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังเป็นที่นิยมเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ดีในการดูแลผิวหนังของตนเอง

10.การแนะนำและการแบ่งปันประสบการณ์

สื่อสังคมออนไลน์และเครือข่ายสังคมทำให้ง่ายต่อการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในการดูแลผิวหนัง ผู้คนสามารถแลกเปลี่ยนคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม แนวทางการดูแลผิวหนังที่ได้ผลหรือการแก้ไขปัญหาผิวหนังร่วมกันผ่านช่องทางออนไลน์ การแบ่งปันประสบการณ์นี้ช่วยให้ผู้คนได้รับข้อมูลที่มีคุณค่าและสามารถดูแลผิวหนังของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทรนด์การดูแลผิวหนังในยุคปัจจุบันไม่เพียงเป็นเรื่องของความสวยงามและสุขภาพผิวหนังเท่านั้นแต่ยังเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงในสถานการณ์เสี่ยง การนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนัง และการแบ่งปันประสบการณ์การดูแลผิวหนังร่วมกัน การรักษาผิวหนังให้สุขภาพแข็งแรง และสวยงามต้องปรับตัวตามเทรนด์เหล่านี้เพื่อให้ผิวหนังของคุณอยู่ในสภาพที่ดีและสุขภาพที่ดีในระยะยาว

>>ปรึกษาปัญหาโรคผิวหนัง คลิกเลย

เทคโนโลยีการดูแลผิวหนัง การเปลี่ยนแปลงวิธีการดูแลผิวหนังในยุคดิจิทัล

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในทุกด้านของชีวิต เทคโนโลยีก็ได้มาเข้ามาช่วยปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลผิวหนังอย่างมาก เรามาดูแนวโน้มของเทคโนโลยีการดูแลผิวหนังและวิธีที่มันกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการดูแลผิวหนังในยุคปัจจุบัน

1.แอพพลิเคชันและเครื่องมือออนไลน์สำหรับการวิเคราะห์ผิวหนัง

ผู้ใช้สามารถใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อวัดค่าความชุ่มชื้นในผิวหนัง การครอบครองแสงแดด และปัญหาผิวหนังต่าง ๆ

2.เทคโนโลยีทางการแพทย์ในการดูแลผิวหนัง

เช่น เครื่อง Laser หรือ Radiofrequency ได้รับความนิยมในการรักษาปัญหาผิวหนัง เช่น ริ้วรอย สิว และรอยดำ เครื่องมือเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาผิวหนังและให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

3.ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังแบบ “สมาร์ท”

กำลังเป็นที่นิยม มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น มือถือหรืออุปกรณ์สวมใส่ และทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามสถานะผิวหนังรายงานค่าความชุ่มชื้น หรือรับคำแนะนำสำหรับการดูแลผิวหนังโดยตรงผ่านแอพพลิเคชัน

4.เทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย

การผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การผลิตที่อัจฉริยะทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้เทคโนโลยีการดูแลผิวหนังโดยแพทย์ผิวหนังช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลผิวหนังที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ รวมถึงผิวหนังที่สุขภาพดีและสวยงามอย่างยั่งยืน การรักษาและดูแลผิวหนังไม่ได้เป็นเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพผิวหนัง สมรรถภาพในการป้องกันโรคผิวหนัง และคุณภาพชีวิตที่ดีที่มาพร้อมกับผิวหนังที่ดูอ่อนเยาว์และสมบูรณ์แข็งแรงของเราในสังคมที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี เรามีโอกาสในการดูแลผิวหนังของเราอย่างดีที่สุดโดยใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพและแพทย์ผิวหนังเป็นผู้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำในการดูแลผิวหนังให้เราได้อย่างมั่นคงและมั่นใจ

แนะนำ แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ ประจำ Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic

พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังจากโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ประสบการณ์มากกว่า 15 ปีผู้เชี่ยวชาญ ในการรักษาโรคผิวหนัง โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เน้นความโดดเด่นในการ รักษาโรคผม เล็บ ผิวหนัง โดยเฉพาะการเป็นอดีตอาจารย์แพทย์ รพ.รามา จบจากอเมริกา และเกาหลี

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์พิเศษแผนกผิวหนัง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

 

โดยสามารถเข้ารับคำปรึกษาจากพญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์ ได้ที่

สาขา Seven Plus Clinic

  • เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
  • facebook : SevenPlusClinic
  • Messenger : SevenPlusClinic
  • Line : @sevenplusclinic
  • Phone : 02-005-5552 , 094-9242294 หรือ 084 6555588
  • Map : ศูนย์โรคผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เซเว่น พลัส ปากซอยพระรามเก้า 51สวนหลวง กรุงเทพมหานคร

สาขา D’Secret Clinic

  • เปิดบริการวันอังคาร, วันศุกร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 14.00 – 18.30 น.
  • facebook : Dsecretclinic
  • Messenger : Dsecretclinic
  • Line : @dsecretclinic
  • Phone : 02-910-2955 , 091-462-9154
  • Map : 67 ซ.ประชาชื่น 2 ถ.ริมคลองประปา แขวง บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (ร้านอยู่หัวมุมด้านซ้ายก่อนทางเข้าที่จอดรถโลตัส ประชาชื่น)
Continue Reading10 เทรนด์การดูแลผิวหนังในยุคปัจจุบัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง

8 ความสำคัญของการปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

ผิวหนังคืออวัยวะที่มีความสำคัญมากในร่างกายของเรา เพราะมันเป็นอันดับแรกที่มาติดต่อกับสิ่งแวดล้อมภายนอก ด้วยเหตุนี้การดูแลและประคองผิวหนังเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และสิ่งหนึ่งที่เป็นสำคัญ
ในการดูแลผิวหนังคือการปรึกษาแพทย์ผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณนะคะ

ความสำคัญของการปรึกษาแพทย์ผิวหนังมีอะไรบ้าง

ในบทความนี้เราจะสำรวจความสำคัญของการปรึกษาแพทย์ผิวหนังและประโยชน์ที่ได้รับจากการที่ผิวหนังของเราได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ได้แก่

1.การตรวจสุขภาพผิวหนัง

การปรึกษาแพทย์ผิวหนังเป็นโอกาสที่ดีในการตรวจสุขภาพของผิวหนังของคุณอย่างละเอียด แพทย์ผิวหนังมีความเชี่ยวชาญในการระบุปัญหาผิวหนังที่อาจไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น โรคผิวหนังที่เกิดในชั้นลึกโรคเรื้อรัง เช่น สิวหรือโรคสะเก็ดเงิน และความผิดปกติที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง เมื่อตรวจพบปัญหาที่เร็ว เราสามารถรักษามันได้ในระยะเริ่มต้น ซึ่งอาจช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษาในระยะยาว

>>ติดต่อเจ้าหน้าทีมแพทย์โรคผิวหนัง คลิกเลย

2.การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

แพทย์ผิวหนังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังที่เหมาะกับประเภทผิวและปัญหาที่คุณมี การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิวหนังอาจทำให้เกิดปัญหาเช่น ริ้วรอย หรือการระคายเคืองซึ่งการปรึกษาแพทย์ผิวหนังช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและป้องกันปัญหาเหล่านี้

3.การรักษาปัญหาผิวหนัง

หากคุณมีปัญหาผิวหนัง เช่น สิวหรือโรคผิวหนังอื่น ๆ การปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่เหมาะสมและมีผลมากขึ้น แพทย์ผิวหนังสามารถรักษาโรคผิวหนังให้หายขาดหรือควบคุมให้มีอาการเบาลง เพื่อให้คุณได้ผิวหนังที่สุขภาพแข็งแรงและดูดี

4.การป้องกันการเสื่อมสภาพ

การปรึกษาแพทย์ผิวหนังยังช่วยในการวางแผนการดูแลผิวหนังในระยะยาว เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพและสุขภาพของผิวหนังที่ดีในอนาคต แพทย์ผิวหนังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาผิวหนังในการเปลี่ยนฤดูกาล การดูแลผิวหนังในระยะยาว เช่น การใช้ครีมกันแดด และการรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง

5.การมีความมั่นใจในร่างกายและลดความเครียด

การปรึกษาแพทย์ผิวหนังอาจช่วยให้คุณมีความมั่นใจในสุขภาพผิวหนังของคุณ ซึ่งอาจช่วยลดความเครียดที่เกิดจากปัญหาผิวหนัง การมีความมั่นใจในร่างกายสามารถส่งผลต่อสุขภาพจิตและความรู้สึกดีต่อตัวเราเอง

6.การรับคำแนะนำและการศึกษาเพิ่มเติม

การปรึกษาแพทย์ผิวหนังไม่เพียงแค่เป็นการตรวจสุขภาพผิวหนัง แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผิวหนังของคุณ แพทย์ผิวหนังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับสารสกัดจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวหนัง และการรักษาปัญหาเฉพาะที่คุณกำลังเผชิญอยู่ นอกจากนี้ คุณยังสามารถสอบถามเกี่ยวกับแนวทางการดูแลผิวหนังที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผิวหนังของคุณอยู่ในสภาพที่ดีตลอดเวลา

7.การรับรู้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การปรึกษาแพทย์ผิวหนังช่วยในการระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การเสื่อมสภาพผิวหนังจากแสงแดด ความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย หรือความรุนแรงของปัญหาผิวหนังที่เป็นไปได้ เมื่อเรารู้จักปัญหาเหล่านี้ล่วงหน้า เราสามารถดำเนินการป้องกันและรักษาในขั้นตอนแรกได้เหมาะสม

8.การปรับปรุงคุณภาพชีวิต

การดูแลผิวหนังที่ดีไม่เพียงเสริมสร้างความสวยงามของผิวหนังเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของเรา ผิวหนังที่แข็งแรงและสุขภาพดีช่วยให้คุณรู้สึกเป็นธรรมชาติและมีความมั่นใจ และนอกจากนี้ การดูแลผิวหนังเอาใจใส่ตัวเองยังเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์แบบและสุขภาพที่ดี

รู้จักกับ พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังจากโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ประสบการณ์มากกว่า 15 ปีผู้เชี่ยวชาญ ในการรักษาโรคผิวหนัง โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เน้นความโดดเด่นในการ รักษาโรคผม เล็บ ผิวหนัง โดยเฉพาะ เป็นอดีตอาจารย์แพทย์ รพ.รามา จบจากอเมริกา และเกาหลี

>>ปรึกษาปัญหาโรคผิวหนัง คลิกเลย

 ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์พิเศษแผนกผิวหนัง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

การปรึกษาแพทย์ผิวหนังเป็นการลงทุนในสุขภาพและความงามของผิวหนังที่คุณควรพิจารณาอย่างสม่ำเสมอ มันไม่เพียงแค่ช่วยรักษาสุขภาพผิวหนังในระยะสั้น แต่ยังมีผลต่อการดูแลและปกป้องผิวหนังในระยะยาว อย่าละเลยความสำคัญของการปรึกษาแพทย์ผิวหนังและรับการดูแลที่เหมาะสมเพื่อความสุขของผิวหนังและร่างกายของคุณ หากต้องการรับคำปรึกษาสามารถติดต่อได้ที่

สาขา Seven Plus Clinic

  • เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
  • facebook : SevenPlusClinic
  • Messenger : SevenPlusClinic
  • Line : @sevenplusclinic
  • Phone : 02-005-5552 , 094-9242294 หรือ 084 6555588
  • Map : ศูนย์โรคผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เซเว่น พลัส ปากซอยพระรามเก้า 51สวนหลวง กรุงเทพมหานคร

สาขา D’Secret Clinic

  • เปิดบริการวันอังคาร, วันศุกร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 14.00 – 18.30 น.
  • facebook : Dsecretclinic
  • Messenger : Dsecretclinic
  • Line : @dsecretclinic
  • Phone : 02-910-2955 , 091-462-9154
  • Map : 67 ซ.ประชาชื่น 2 ถ.ริมคลองประปา แขวง บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (ร้านอยู่หัวมุมด้านซ้ายก่อนทางเข้าที่จอดรถโลตัส ประชาชื่น)
Continue Reading8 ความสำคัญของการปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

สาเหตุที่ผมร่วงหนัก เกิดจากอะไร ปรึกษาแพทย์ผิวหนังด่วน !!!

ผมร่วงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย สาเหตุของผมร่วงมีได้หลายประการ เช่น พันธุกรรม ความเครียด โรคบางชนิด การใช้ยาบางชนิด การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือการบาดเจ็บที่หนังศีรษะ แพทย์ผิวหนังเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเส้นผม จึงสามารถวินิจฉัยสาเหตุของผมร่วงและแนะนำการรักษาที่เหมาะสมได้

สาเหตุผมร่วง เกิดจากอะไร

แพทย์ผิวหนังยังสามารถให้คำแนะนำในการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อลดความเสี่ยงของผมร่วงได้ เช่น หลีกเลี่ยงการดึงหรือถอนผมบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมมากเกินไป และรักษา ความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอดังนั้น หากพบว่าตนเองมีผมร่วงผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป ต่อไปนี้เป็นสาเหตุของผมร่วงที่แพทย์ผิวหนังสามารถวินิจฉัยได้

  1. พันธุกรรม เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
  2. ความเครียด อาจทำให้เกิดผมร่วงชั่วคราวได้
  3. โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคโลหิตจาง โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต เป็นต้น
  4. การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง ยารักษาโรคจิตเวช ยารักษาโรคหัวใจ เป็นต้น
  5. การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ผมร่วงได้
  6. การบาดเจ็บที่หนังศีรษะ อาจทำให้ผมร่วงเป็นบริเวณๆ ได้

>>ติดต่อเจ้าหน้าทีมแพทย์โรคผิวหนัง คลิกเลย

7 โรคผมร่วง ที่พบได้บ่อย

ผมร่วงอาจแตกต่างกันไปตามสาเหตุและความรุนแรงของปัญหา แต่มีโรคผมร่วงที่พบได้บ่อยที่สามารถระบุได้ดังนี้

1.โรคผมร่วงเป็นหย่อม

เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จะมีอาการผมร่วงเฉพาะที่ บริเวณผมที่ร่วงจะมีลักษณะกลมหรือมีขอบเขตชัดเจน ตรงกลางไม่มีเส้นผมหนังศีรษะในบริเวณนั้น ไม่แดง ไม่เจ็บ ไม่คัน ไม่เป็นสะเก็ดหรือเป็นขุย

2.โรคดึงผมตนเอง

พบได้บ่อยในผู้ใหญ่และเด็กที่มีความเครียดจากสาเหตุต่าง ๆ ผู้ป่วยจะดึงผมตัวเองจนผมแหว่ง หนังศีรษะบริเวณที่ผมร่วงจะไม่มีผื่นคัน หรือเป็นขุย และจะพบเส้นผม ที่เป็นตอสั้น ๆ

3.โรคผมผลัด

เกิดผมร่วงเนื่องจากผมหยุดเจริญชั่วคราวจากการเจ็บป่วยหรือความเครียดมากๆ หรือขาดสารอาหาร เช่น เหล็กหรือวิตามินดี ทำให้วงจรชีวิตเส้นผมที่กำลังเจริญมีการหยุดเจริญและหลุดร่วงมากกว่าปกติ

 4.โรคเชื้อราที่หนังศีรษะ

โรคเชื้อราที่ศีรษะ กลากที่ศีรษะ อาจพบได้บ่อยในเด็ก เกิดจากการติดเชื้อราโรคนี้ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ เป็นผื่นแดงคัน และเป็นขุย หรือก้อนอักเสบคล้ายฝี อาจจะมีโรคเชื้อรา (กลาก) ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้

5.โรคผมร่วงจากพันธุกรรม

ผมร่วงจากกรรรมพันธุ์ สามารถพบได้ทั้งชายและหญิง  แต่ส่วนใหญ่มักพบในเพศชาย เห็นเป็นเส้นขนอ่อน ๆ ทำให้ผมบริเวณนั้นดูบางลง ส่วนมากจะเป็นบริเวณกลางศีรษะและหน้าผาก

6.โรคผมร่วงจากความร้อนและสารเคมี

ผมร่วงจากการทำผม การม้วนผม ย้อมสีผม  ดัดผม เป่าผมหรือวิธีอื่นๆ อาจทำให้มีอาการผมร่วงได้
จากการที่มีหนังศีรษะอักเสบ หรือเส้นผมเปราะหัก

7.ผมร่วงจากโรคอื่นๆ

ผมร่วงจากโรคอื่น ๆ ผู้ป่วยที่มีโรคบางอย่าง เช่น  โรคเอสแอลอี ก็อาจมีอาการผมร่วง ผมบาง ร่วมกับอาการไข้เรื้อรัง ปวดตามข้อ มีผื่นปีกผีเสื้อขึ้นที่หน้า โรคผมร่วงบางอย่างอาจมีการอักเสบที่บริเวณสเต็มเซลล์
ทำให้เกิดผมร่วงแบบเป็นแผลเป็นซึ่งแผลเป็นจะไม่หาย

>>ปรึกษาปัญหาโรคผิวหนัง คลิกเลย

 สิ่งที่ควรทำเมื่อคุณมีปัญหาผมร่วง

1. สังเกตอาการตนเองว่ามีภาวะผมร่วงผิดปกติหรือไม่ เช่น ผมร่วงมากกว่าวันละ 100 เส้น/วัน ถ้ามีอาการผมร่วงผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน

2. รักษาความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ

3. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีหรือความร้อนกับหนังศีรษะมากจนเกินไป

4. ในผู้ที่มีการดัดผมหรือย้อมสีผม ควรมีการบำรุงเส้นผมด้วยครีมนวดผมเพื่อไม่ให้ผมพันกันเกิดผมขาดง่าย

5. ถ้ารู้สึกมีอาการคัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา หลีกเลี่ยงการดึงหรือถอนผมเล่น

6. ไม่ควรซื้อยารักษาเองก่อนพบแพทย์เพื่อรับคำวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนรักษา ในรายที่เพิ่งมีอาการ ผมร่วงที่เป็นมากหรือผมร่วงแบบเป็นแผลเป็น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

แพทย์ผิวหนังความหวังของคนผมร่วง

แพทย์ผิวหนังเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเส้นผม มีความรู้และประสบการณ์ในการตรวจวินิจฉัยและดูแลผู้มีปัญหาผมร่วงได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยแพทย์ผิวหนังจะทำการซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของผมร่วง จากนั้นจึงพิจารณาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ยา การฉีดยา การเลเซอร์ หรือการผ่าตัดปลูกผม 

แพทย์ผิวหนังที่เราแนะนำ

พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางรักษาโรคผิวหนัง ตจแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง จากโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ประสบการณ์มากกว่า 15 ปีมีประสบการณ์ในการรักษาโรคผิวหนัง โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เน้นความโดดเด่นในการ รักษาโรคผม เล็บ ผิวหนัง โดยเฉพาะเป็นอดีตอาจารย์แพทย์ รพ.รามาธิบดี จบจากอเมริกา และเกาหลี

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์พิเศษแผนกผิวหนัง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

ดังนั้น หากพบว่าตนเองมีปัญหาผมร่วง ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ผมร่วงรุนแรงจนแก้ไขได้ยาก สามารถติดต่อได้ที่

สาขา Seven Plus Clinic

  • เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
  • facebook : SevenPlusClinic
  • Messenger : SevenPlusClinic
  • Line : @sevenplusclinic
  • Phone : 02-005-5552 , 094-9242294 หรือ 084 6555588
  • Map : ศูนย์โรคผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เซเว่น พลัส ปากซอยพระรามเก้า 51สวนหลวง กรุงเทพมหานคร

สาขา D’Secret Clinic

  • เปิดบริการวันอังคาร, วันศุกร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 14.00 – 18.30 น.
  • facebook : Dsecretclinic
  • Messenger : Dsecretclinic
  • Line : @dsecretclinic
  • Phone : 02-910-2955 , 091-462-9154
  • Map : 67 ซ.ประชาชื่น 2 ถ.ริมคลองประปา แขวง บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (ร้านอยู่หัวมุมด้านซ้ายก่อนทางเข้าที่จอดรถโลตัส ประชาชื่น)
Continue Readingสาเหตุที่ผมร่วงหนัก เกิดจากอะไร ปรึกษาแพทย์ผิวหนังด่วน !!!