ฝุ่น PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีขนาดเป็น 2.5 ไมครอนหรือน้อยกว่า โดยมีความละเอียดและเบามาก เมื่อมีฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในอากาศที่เราหายใจเข้าไป มีผลกระทบต่อสุขภาพมากมาย นอกจากผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ที่ถูกกล่าวมาแล้ว ฝุ่น PM 2.5 ยังสามารถส่งผลกระทบต่อผิวหนังได้ด้วยหลายวิธี
ผลกระทบจาก PM 2.5 มีผลต่อผิวหนังของเราอย่างไรบ้าง
1.ทำให้ผิวแห้งและเสื่อมชรา
ฝุ่น PM 2.5 มีความละเอียดมากพอที่จะเข้าสู่รูขุมขนในผิวหนัง โดยเฉพาะในบริเวณใบหน้า การที่ฝุ่นนี้สัมผัสผิวหนังและเข้าสู่รูขุมขนสามารถทำให้ผิวแห้งขึ้นและเสื่อมชราได้เร็วขึ้น
2.การเสี่ยงต่อโรคผิวหนัง
การสัมผัสฝุ่น PM 2.5 อย่างต่อเนื่องอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคผิวหนัง เช่น สิว ผื่นแพ้แสง หรือโรคผิวหนังอื่นๆ
3.การเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง
ฝุ่น PM 2.5 อาจมีสารเคมีอันตรายและสารพิษติดมากับตัวมัน ซึ่งอาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง
>>ติดต่อเจ้าหน้าทีมแพทย์โรคผิวหนัง คลิกเลย
ผิวหนังเสื่อมชราเป็นปัญหาสำคัญ
ฝุ่น PM 2.5 มีความละเอียดสูงมาก ซึ่งทำให้สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อผิวหนังเสื่อมชราและมีริ้วรอยเล็ก ๆ หรือรอยแห่งวัย การกระทบของฝุ่น PM 2.5 นี้จะทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่น นอกจากนี้ ฝุ่น PM 2.5 ยังสร้างอนุภาคอิสระ ซึ่งเป็นสารที่สามารถทำให้เกิดความเสียหาย
ในเซลล์ผิวหนังได้ ซึ่งจะทำให้ผิวหนังเสื่อมชราได้เร็วขึ้น การเสื่อมชราของผิวหนังเป็นปัญหาที่คนหลายคนต้องเผชิญหน้ากัน ซึ่งการเสื่อมชราของผิวหนังมีหลายสาเหตุ เช่น
- การแก่ของผิวที่เป็นไปตามช่วงวัย หรือ พันธุกรรม
- การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่เพียงพอต่อการบำรุงเซลล์ผิวหนัง
- การดูแลผิวหนังไม่เหมาะสม การอาบแดดไม่ถูกวิธี ขาดการบำรุง
- ปัจจัยสิ่งแวดล้อม ฝุ่น PM 5 เป็นหนึ่งในปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อการเสื่อมชราของผิวหนัง
วิธีป้องกันและดูแลผิวหนัง จากฝุ่น PM 2.5
เพื่อป้องกันการเสื่อมชราของผิวหนังที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5 ควรทำการดูแลผิวหนังอย่างเหมาะสม ซึ่งมีหลายวิธีที่สามรถป้องกันได้ อาทิเช่น
- ป้องกันผิวหน้า : ควรสวมหน้ากากหรือผ้าคลุมหน้า เพื่อป้องกันการสัมผัสกับฝุ่น PM5 ที่อาจเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง
- ทำความสะอาดผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ: ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและสบู่เป็นประจำเพื่อล้างความสกปรกและฝุ่น PM5 ที่อาจติดอยู่บนผิวหนัง
- ใช้ครีมกันแดด: ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวหนังจากแสงแดดและฝุ่น PM5 ที่มีผลกระทบ
อย่างร้ายแรงต่อผิวหนัง - ดูแลการบริโภคอาหารและน้ำดื่ม: รับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่ดีสำหรับผิวหนังและดื่มน้ำเพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง
- ควรหมั่นดูแลสุขภาพผิวหนังอย่างเรียบร้อย: หากคุณมีโรคผิวหนังอยู่เดิมหรือมีปัญหาเฉพาะเจาะจงบนผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาเพิ่มเติม
การดูแลผิวหนังอย่างเป็นอย่างดีและการป้องกันการสัมผัสกับฝุ่น PM2.5 มีความสำคัญเพื่อรักษาผิวหนัง ให้สุขภาพดีและป้องกันไม่ให้เสื่อมชรามากยิ่งขึ้นในระยะยาว แต่ถ้าหากคุณพยายามดูแลเป็นอย่างดีแต่ก็ยังพบปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังที่มีต้นเหตุมากจากฝุ่น PM 2.5 แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับคำแนะนำ
>>ปรึกษาปัญหาโรคผิวหนัง คลิกเลย
พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังจากโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ผู้เชี่ยวชาญ ในการรักษาโรคผิวหนัง โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เน้นความโดดเด่นในการ รักษาโรคผม เล็บ ผิวหนัง โดยเฉพาะ เป็นอดีตอาจารย์แพทย์ รพ.รามา จบจากอเมริกา และเกาหลี
ประสบการณ์การทำงาน
- อาจารย์พิเศษแผนกผิวหนัง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
- อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
- อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
- แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
- แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ
ผ่านการศึกษาจาก (Education)
- Hair Restoration Training, Korea (2015)
- Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
- Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
- Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
- Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
- Nail surgery training
- Laser expert training
- Hair expert training
- Boton university usa
จากที่กล่าวมาข้างต้น ฝุ่นPM 2.5 มีผลกระทบต่อผิวหนังได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้นการปกป้องผิวหนังให้สัมผัสกับฝุ่นดัวกล่าวให้น้อยที่สุดจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ในคนที่มีโรคผิวหนังอยู่เดิม เพื่อป้องกันไม่ให้โรคผิวหนังกำเริบมากขึ้น แต่หากอาการยังคงกำเริบและต้องการเข้ารับการปรึกษา หรือ การดูแลผิวหนังของคุณโดยแพทย์ผิวหนังที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ด้านโรคผิวหนังมาอย่างยาวนาน สามารถติดต่อได้ที่